MENU
เว็บบอร์ด
ผลบอล
วิเคราะห์บอล
ไฮไลท์ฟุตบอล
ตารางคะแนน
ดูบอลสด
FB88
Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
ติดต่อโฆษณา
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย
คุณสามารถรับประทานอาหารที่มีแคลอรีได้เท่าไหร่ต่อวัน
ทุกคนนั้นรู้ว่าการนับพลังงานที่รับประทานนั้นเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดน้ำหนัก
ผู้หญิงส่วนใหญ่นั้นมักจะต้องการพลังงานประมาณ 2000 แคลอรีเพื่อคงน้ำหนัก และ 1500 แคลอรีเพื่อลดน้ำหนักให้ได้ 1 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ผู้ชายนั้นต้องการพลังงาน2500 แคลอรีเพื่อคงน้ำหนักและ 2000 แคลอรีเพื่อลดน้ำหนักให้ได้ 1 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และทุกคนต่างก็รู้ว่าคุณสามารถทำได้โดยการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นและรับประทานอาหารให้น้อยลง อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวนั้นก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็น มันเป็นการประมาณการณ์อย่างหยาบๆ ที่ไม่ได้นำปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อตัวเลขดังกล่าวเข้ามาคิด ทั้งอายุ ส่วนสูง น้ำหนัก หรือระดับของกิจกรรมที่ทำ แม้ว่าคุณจะคิดว่าการออกกำลังกายเป็นประจำนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนัก
มันก็ไม่ได้เทียบเท่ากับการเลือกทานอาหารที่เหมาะสม
แต่การนับพลังงานเหล่านี้ก็ไม่ใช่การคาดเดาเสมอไป แทนการนำการออกกำลังกายมาเทียบกับการทานอาหาร ให้ลองใช้สมการเหล่านี้เพื่อคำนวนหาปริมาณพลังงานที่คุณต้องการในแต่ละวัน สมการนี้เรียกว่า Mifflin-St Jeor ซึ่งเป็นสูตรที่พบว่าสามารถประมาณการณ์พลังงานที่ใช้ได้แม่นยำที่สุด โดยเ
ริ่มจากการคิดอัตราการทำงานที่ขณะพักของร่างกาย ร่างกายนั้นต้องหายใจ กระพริบตาและเจริญเติบโต และทำให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะในทุกๆ วัน
การมีชีวิตอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และต้องใช้พลังงานในการทำสิ่งต่างๆ ตัวเลขนี้จะเป็นตัวเลขที่ประมาณพลังงานที่คุณสามารถเผาผลาญได้หากคุณอยู่ในภาวะผ่อนคลายเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ในทางกลับกันมันก็หมายถึงพลังงานขั้นต่ำที่ร่างกายต้องใช้เพื่อให้ทำงานเช่นหายใจและสูบฉีดเลือดได้
-
นี่คือสูตรสำหรับผู้ชาย 10xน้ำหนัก (กิโลกรัม) + 6.25x ส่วนสูง (ซม) -5x อายุ (ปี) +5
-
ในผู้หญิงนั้นจะเป็น 10xน้ำหนัก (กิโลกรัม) + 6.25x ส่วนสูง (ซม) -5x อายุ (ปี) – 161
ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นผู้หญิงทีมีน้ำหนัก 140 ปอนด์ อายุ 30 ปี สูง 167.6 ซม. คุณจะสามารถคิดได้เท่ากับ 10 x (63.5) + 6.25 x (167.6) – 5 x (30) – 161 = 1,371.5 ใช้ตัวเลขนี้เป็นฐานอ้างอิงสำหรับการลดน้ำหนักที่ปลอดภัย คุณไม่ควรได้พลังงานน้อยกว่า 1200 แคลอรี เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อเริ่มลดลง และหมายความว่าคุณได้พลังงานไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
ขั้นต่อไป คุณต้องคิดถึงกิจกรรมต่างๆ ที่คุณทำตลอดทั้งวันที่เผาผลาญพลังงาน
เช่นการเดินไปทำงาน การเล่นกีฬา เล่นโยคะ หรือแม้แต่ดูโทรทัศน์ ทุกอย่างล้วนต้องใช้พลังงาน ให้ค้นหาพลังงานที่ต้องใช้ในการทำแต่ละกิจกรรมจากอินเตอร์เนตก่อนนำมาบวกเพิ่มเข้าไปจากตัวเลขข้างต้นที่คำนวนได้
เพื่อให้คุณทราบว่าคุณต้องรับประทานอาหารเท่าไหร่เพื่อคงน้ำหนักให้อยู่ในระดับเท่าเดิม
อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่อยากเปิดตารางในอินเตอร์เน็ต ให้ลองใช้สูตรต่อไปนี้
-
ค่า BMR x 1.2 สำหรับการทำกิจกรรมเบาๆ และผ่อนคลาย
-
BMR x 1.375 สำหรับการออกกำลังกายเบา
(เช่นเดินวันละ 30-50 นาที สัปดาห์ละ 3-4 วัน ตีกอล์ฟ ทำงานบ้าน)
-
BMR x 1.55 สำหรับการออกกำลังกายระดับปานกลางสัปดาห์ละ 3-5 วัน
(มีอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในช่วง 60-70% ของอัตราสูงสุด เป็นเวลา 30-60 นาทีต่อครั้ง)
-
BMRx1.725 สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
(สัปดาห์ละ 6-7 วันในระดับปานกลางถึงใช้พลังงานมาก (มีอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในช่วง 70-85% ของอัตราสูงสุด เป็นเวลา 45-60 นาทีต่อครั้ง)
-
BMRx1.9 สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายมากเป็นประจำ
(เช่นออกกำลังกายอย่างหนัก ทำงานยกของหนัก นักกีฬา 6-7 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละมากกว่า 90 นาที)
อย่างไรก็ตามคุณต้องเข้าใจว่า
ตัวเลขดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นตัวเลขที่คุณต้องเชื่อถือเสมอไป
เพราะถึงแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวนั้นมาจากสูตรทางทฤษฎีและใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ก
แต่การลดน้ำหนักนั้นต้องใช้อะไรมากกว่าตัวเลข
การที่คุณใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพแข็งแรงนั้นไม่ได้เทียบเท่ากับความสามารถในการลดน้ำหนัก และการจดจ่อกับการนับพลังงานนั้นก็อาจจะทำให้คุณเลือกรับประทานอาหารซ้ำๆ มากเกินไปและเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ นอกจากนั้นยังเพิ่มความเครียดที่อาจจะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน cortisol และทำให้คุณลดน้ำหนักได้ยากขึ้น โดยสรุป ให้มีสติกับการนับพลังงานที่รับประทาน แต่
ทางที่ดีก็คือให้รู้ว่าคุณกำลังรับประทานอะไรและในปริมาณเท่าไหร่ ร่างกายของคุณรู้ดีว่ามันต้องการอะไร
ดังนั้นหากมันต้องการพลังงานก็ควรรับประทาน อย่าอด
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : solo
เมื่อ 21 ก.พ. 2567 07:02:23 น. อ่าน 130 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์